Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

8 ผลิตภัณฑ์ไอทีล้มเหลวประจำปี 2010

เว็บไซต์ Newsweek รวบรวม 8 อุปกรณ์-ผลิตภัณฑ์ไอทีที่ล้มเหลวในปี 2010 นี้

Microsoft Kin มือถือของไมโครซอฟท์ที่มีเวลาขายเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเลิกโครงการ
Nexus One แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่ล้มเหลวในแง่วิธีการขาย ซึ่งแปลกไปสักหน่อยกับผู้ใช้ในสหรัฐ
JooJoo Tablet แท็บเล็ตที่เคยฮือฮาว่าจะมาต่อกรกับ iPad แต่มีปัญหาข้อพิพาทเรื่องกฎหมายระหว่างผู้พัฒนากันเอง และตัวผลิตภัณฑ์ก็ไม่ดีจริงอย่างกระแส
Microsoft Courier แท็บเล็ตสองจอจากไมโครซอฟท์ ที่เป็นได้แค่คอนเซปต์
Skiff E-Reader เครื่องอ่านอีบุ๊กจอใหญ่ ที่โครงการล้มไปหลังบริษัทผู้พัฒนาถูกซื้อกิจการ และบริษัทแม่ไม่ทำต่อ
Cool-er E-reader แท็บเล็ต E Ink จอสี ที่ไปไม่รอดในทางธุรกิจ บริษัทเพิ่งล้มละลายไป
iPhone 4 สีขาว อุปกรณ์ที่ยังไม่เป็นจริง
Google Wave แนวคิดแปลกใหม่ แต่อาจมาก่อนกาลไปสักนิด


ข้อมูลจาก : blognone.com

@ thaiware.เผยยอดโหลดซอฟต์แวร์ผ่านเว็บพุ่ง @



ไทยแวร์ดอทคอม ระบุโซเชียล เน็ตเวิร์ค อุปกรณ์พกพาสุดฮิต ดันยอดโหลดซอฟต์แวร์ผ่านเว็บปี 2553 โตกว่า 50%


ชี้ที่ผ่านมามีซอฟต์แวร์ไทยเปิดโหลดผ่านเว็บ 2,500 โปรแกรม คนไทยฮิตโหลดกว่า 4 ล้านคน ขณะที่ โปรแกรมภาคธุรกิจครองแชมป์ทำรายได้ให้ผู้พัฒนามากสุด

นายชัชวิทย์ ก่อตั้งเกียรติกุล ผู้บริหาร บริษัท ไทยแวร์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์ไทยแวร์ดอทคอม (www.thaiware.com) กล่าวว่า  ตลาดซอฟต์แวร์ ไทยปี 2553 มีอัตราการเจริญเติบโตมากกว่าปีก่อน 50% จากสภาพเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นโดยรวมที่แข็งกล้ามากขึ้น ทั้งยังมาจากอานิสงส์การเป็นที่นิยมของโซเชียล เน็ตเวิร์ค อย่างเฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์พกพาต่างๆ ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายซอฟต์แวร์ของคนไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ

ทั้งนี้ จากการสำรวจจำนวนซอฟต์แวร์สัญชาติไทยที่มาให้บริการดาวน์โหลดบนเว็บมี 2,500 โปรแกรม จำนวนนี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ให้ใช้งานฟรี 80% มีประมาณ 500 โปรแกรมเท่านั้นที่พัฒนาออกมาเพื่อการค้า

นายชัชวิทย์ กล่าวว่า หากแยกย่อยออกไปตามลักษณะหมวดหมู่ของซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ประเภทธุรกิจ เช่น ซอฟต์แวร์บัญชี และซอฟต์แวร์บริหาร กิจการด้านต่างๆ เช่น บริหารสต็อกสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ และยังเป็นตัวชูโรงในการทำเงินให้แก่ผู้ผลิตได้มากกว่าโปรแกรมประเภทอื่นๆ อีกด้วย

"ที่มาแรงแซงทางโค้งในปีที่ผ่านมาคือ ซอฟต์แวร์ที่ พัฒนาขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ที่ทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ออกมา กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ส่งผลให้บรรดานักพัฒนาชาวไทยทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ต่างกระโดดเข้ามาลุยตลาดนี้กันมากขึ้น ทำให้มีโปรแกรมบนอุปกรณ์เหล่านี้ออกมาในท้องตลาดมากมายช่วงที่ผ่านมา และคาดว่าแนวโน้มจะมีผลยาวไปถึงปีหน้าด้วย" นายชัชวิทย์ กล่าว

และนายธรรณพ สมประสงค์ ผู้บริหารอีกรายหนึ่ง กล่าวเสริมว่า ปีนี้จำนวนผู้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ไทย พุ่งแตะ 4 ล้านคนไปเมื่อเดือน พ.ย.2553 เทียบกับปีที่แล้วมีเพียง 2 ล้านคน ถือว่าโตขึ้น 50% โดยมาจากปัจจุบันมีธุรกิจเอสเอ็มอีจำนวนมาก หันมาให้ความสนใจนำซอฟต์แวร์เข้าช่วยบริหารจัดการธุรกิจของตัวเองให้ง่ายขึ้น

จากการสอบถามเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี พบว่า ซอฟต์แวร์ประเภทดังกล่าวมีอยู่มากในท้องตลาด ทั้งของไทยและต่างประเทศ เหตุที่เอสเอ็มอีเลือกซอฟต์แวร์ไทย เพราะตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่าซอฟต์แวร์ต่างประเทศ เช่น แบบฟอร์มเรื่องการยื่นภาษีกับกรมสรรพากร ที่ซอฟต์แวร์ของต่างประเทศยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเอสเอ็มอีได้ เป็นต้น

"ภาพรวมธุรกิจด้านซอฟต์แวร์ของ ไทย ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีจากสถิติที่สูงขึ้นมากในปีนี้ ปีหน้าคาดว่าจะโตขึ้นอีกเท่าตัว เพราะเป็นช่วงที่มีช่องว่างเทคโนโลยี และฮาร์ดแวร์ที่เปิดตัวออกมาใหม่ จึงอยากแนะนำให้นักพัฒนาชาวไทยปรับตัว และอาศัยจังหวะนี้เร่ง ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อสร้างรายได้ ทั้งยังช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยให้เติบโตมากขึ้นไปกว่านี้"

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

@ การเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ @


เข้าสู่ฤดูกาลแห่งเทศกาลกันแล้ว มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความคึกคักสดใส
ไม่แตกต่างกับการเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ ที่ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดของปี ก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ 


***  ส่งท้ายปีกับข้อมูลล่าสุดจาก การ์ทเนอร์ ที่ประเมินว่า มูลค่าตลาดซอฟต์แวร์โซเชียลสำหรับภาคธุรกิจ (อีเอสเอส) อาทิเช่น บล็อก วิกิ ฟอรัม และโปรแกรมป้อนข้อมูลอัตโนมัติ จะทะยานขึ้นไปแตะระดับ 769 ล้านดอลลาร์ ในปีหน้า และอาจขยายตัวถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2555  เทียบกับมูลค่า 664 ล้านดอลลาร์ ที่คาดเอาไว้สำหรับปีนี้

หากตัว เลขคาดการณ์สำหรับปี 2553 ถูกต้อง ก็จะแสดงว่า ตลาดมีการเติบโตมาจากเมื่อปี 2552 ถึง 15% โดยในปีก่อนหน้านี้ ทั่วโลกใช้จ่ายด้านอีเอสเอสไป 578 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเครื่องมือในกลุ่มการใช้จ่ายนี้ รวมถึง เซลส์ฟอร์ซ ดอท คอม แชทเตอร์  ไอบีเอ็ม โลตัส คอนเนคชั่น และ ไมโครซอฟท์ แชร์พอยท์

*** เคยแต่ได้รับรางวัล หรือถูกยกย่องว่า มีไอเดียดี สินค้าใช้งานได้ยอดเยี่ยม แต่สิ้นปีนี้ แอ๊ปเปิ้ล คงถึงคราวสะอึกกันบ้าง เมื่อ เว็บไซต์เอ็นพีอาร์ หรือสถานีวิทยุสาธารณะของสหรัฐ เผยผลจัดอันดับไอเดียดี-แย่ประจำปีนี้ อันเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับไอที โดยเลือก ไอทูนส์ ปิง  ของยักษ์ใหญ่รายนี้ เป็นหนึ่งใน  ไอเดียยอดแย่ประจำปี

เอ็นพีอาร์ ให้เหตุผลว่ารากฐานของโซเชียล เน็ตเวิร์ค คือ การแบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้กันและกัน แต่วัฒนธรรมของแอ๊ปเปิ้ลเป็นบริษัทที่ไม่ชอบแบ่งปัน ทำให้ ปิงล้มเหลว โดยในขณะที่สื่อเครือข่ายสังคมรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ หรือ มายสเปซ ล้วนแต่สามารถใช้งานจากอุปกรณ์ใดก็ได้ แต่ปิงกลับต้องใช้งานผ่านไอทูนส์เท่านั้น  แถมในช่วงแรกๆ ของการเปิดตัว ยังบังคับให้แชร์ได้เฉพาะเพลงที่ซื้อจากไอทูนส์ สโตร์ อีกต่างหาก

*** ต่อเรื่องจากค่ายแอ๊ปเปิ้ลกันอีกหน่อย กับข่าวดีๆ ที่ทำให้ยิ้มออก โดยบริษัทเผยว่า ในช่วงเวลาประมาณ 3 เดือน นับแต่วางตลาดเป็นครั้งแรกนั้น แอ๊ปเปิ้ล ทีวี รุ่นปรับปรุงใหม่ มียอดขายพุ่งขึ้นไปแตะ 1 ล้านเครื่องแล้ว

แอ๊ปเปิ้ล ระบุด้วยว่า ผู้ใช้ไอทูนส์ และแอ๊ปเปิ้ล ทีวี มียอดการซื้อภาพยนตร์ 150,000 เรื่องต่อวัน และรายการทีวี 400,000 ตอนต่อวัน

*** ข่าวไม่ดีอีกสักข่าว กับสถิติ 10 อันดับภาพยนตร์ที่ถูกดาวน์โหลด แบบผิดกฎหมายผ่านทางบิท ทอร์เรนท์  มากที่สุดในปีนี้ 2553  โดยตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของภาพยนตร์เรื่องอวตาร มียอดดาวน์โหลดสูงสุดถึง 16,580,000 ครั้ง ส่วนเรื่องเดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์ ที่ได้รับรางวัลออสการ์ อยู่ในอันดับ 9 มียอดดาวน์โหลด 6,850,000 ครั้ง

***ปิดท้ายสัปดาห์ นี้ กับความคืบหน้าในเรื่องการควบคุมแวดวงอินเทอร์เน็ต เมื่อคณะกรรมการสื่อสารของสหรัฐ (เอฟซีซี) มีมติผ่านร่างกฎหมาย  "ความเป็นกลางของเครือข่ายแบบมีข้อจำกัด"​

แม้จะยังไม่มี การเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า ร่างดังกล่าว จะมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การควบคุมความเป็นกลางของอินเทอร์เน็ต ที่ได้เชื่อมต่อด้วยสาย มากกว่าอินเทอร์เน็ตไร้สาย (เช่น บนโทรศัพท์มือถือ) ซึ่งหมายความว่า อาจมีการปิดทางให้ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย เรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้ใช้บริการ ในกรณีที่ต้องการใช้งานที่มีข้อมูลปริมาณมาก อย่าง ยูทูบ ในขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายผ่านระบบสาย จะต้องทำตามกติกาและให้บริการการเข้าถึงเว็บต่างๆ อย่างเป็นกลาง

กรุงเทพธุรกิจ 


Coolfirmed คูลเฟิร์มโดย: นายใหม่ รักหมู่

ยกเลิกครูหลักสูตร 5 ปี ในปี 56 ย้ำ! เป็นครูต้องจบ ป.โท เท่านั้น


ยกเลิกครูหลักสูตร 5 ปี ในปีการศึกษา 2556 แน่นอน "ไชยยศ" ย้ำอนาคตต้องการคนจบ ป.โท มาเป็นครูเท่านั้น สพฐ.ยกงานวิจัยผลการเรียนของเด็กจะดีหรือแย่ขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่ของครูไม่ใช่วุฒิการศึกษา


          นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีว่าช่วยการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ที่ประชุมมีมติการดำเนินการหลักสูตรครูพันธุ์ใหม่ใน 2 หลักสูตร คือ หลักสูตร 4+2 คือรับผู้จบจากสาขาวิชาอื่น ๆ มาเรียนต่อระดับปริญญาโท และหลักสูตรครู 6 ปี โดยทั้ง 2 หลักสูตรมีเงื่อนไขผูกพัน 2 รูปแบบดังนี้คือ การให้ทุนการศึกษาระหว่างเรียนและประกันการมีงานทำ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับการบรรจุเป็นครูในสาขาและพื้นที่ที่ขาดแคลนตามที่โครงการฯ กำหนด สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รูปแบบที่ 2 คือ ประกันการมีงานทำแต่ไม่มีเงินทุนการศึกษาให้ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับการบรรจุเป็นครูในสาขาและพื้นที่ที่ขาดแคลนตามที่โครงการฯ กำหนดเช่นเดียวกัน


          โดยขณะนี้มีสถาบันที่ยืนยันว่าสามารถจะเปิดสอนหลักสูตรครูพันธุ์ใหม่หลักสูตร 6 ปีในปีการศึกษา 2554 เบื้องต้น 36 สถาบัน จำนวน 85 สาขา ส่วนหลักสูตร 4+2 มีสาขาที่ผ่านการพิจาณาจากคณะกรรมการแล้วเบื้องต้นจำนวน 104 หลักสูตร จาก 34 สถาบัน โดยคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปในกลางเดือนมกราคมปี 2554


          นายไชยยศกล่าวต่อไปว่า ส่วนทุนครูพันธุ์ใหม่ในหลักสูตร 5 จะเปิดรับปี 54 เป็นปีสุดท้าย ขณะที่สถาบันที่ยังไม่พร้อมเปิดหลักสูตรครูพันธุ์ใหม่ก็ให้เปิดรับหลักสูตร 5 ปีได้ไปจนถึงปีการศึกษา 2555 แต่ในปีการศึกษา 2556 ก็จะไม่มีการเปิดรับหลักสูตรครู 5 ปีอีกแล้ว เนื่องจากการปรับครั้งนี้เพื่อผลิตครูในสาขาวิชาและพื้นที่ให้สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงานผู้ใช้ครูอย่าง สพฐ.และ สอศ.


          "ส่วนตัวผมคิดว่าในอนาคตคนที่จบมาสอนเด็กควรจะต้องเป็นคนที่จบ ป.โท เพราะจะทำให้คุณภาพการเรียนการสอนดีขึ้น" นายไชยยศกล่าว


          ด้าน ดร.สมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รอง กพฐ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผลงานวิจัยพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษาของครูที่จบ แต่ขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่การเรียนการสอนของครูในห้องเรียนที่มีต่อเด็กมากกว่า



ขอขอบคุณข้อมูลจาก  ไทยโพสต์

@ "HMU" คำฮิตเกิดใหม่ในโลกเฟซบุ๊ค @



"HMU" คำฮิตเกิดใหม่ในโลกเฟซบุ๊ค

คำฮิตเกิดใหม่ของเหล่าชาวเน็ตเฟซบุ๊ค นอกจาก "OMG" ที่ย่อมาจาก "Oh my god" 
หรือ "ASAP" ที่ย่อมาจาก "As soon as possible" หรือ "BTW" ที่ย่อมาจาก "By the way" 

ล่าสุด โผล่มาอีกคำคือ "HMU" ซึ่งย่อมาจาก "hit me up" เป็นคำฮิตใหม่ที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่นอเมริกัน
ซึ่งใช้ในเฟซบุ๊ค โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กยอดนิยม โดยมีความหมายว่า "ชวนคนบางคนออกไปเดท" 
และยังกลายเป็นวลีที่ป็อปปูล่าที่สุดในเฟซบุ๊คอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสื่อไปถึงอีกความหมายว่า "ไปเจอกันเถอะ" และ "ติดต่อฉันด้วย"

ในขณะที่คำว่า "World Cup" และ "movies" เป็นคำยอดนิยมอันดับ 2 และ 3
ตามมาด้วยคำว่า "iPhone 4" และ "iPad" เป็นอันดับ 4 ส่วนคำว่า "Haiti" เป็นอันดับ 5

ข้อมูลจาก..  มติชน

OLED เทคโนโลยีใหม่สำหรับจอภาพ


 
OLED ( Organic Light Emitting Devices ) ทางบริษัท TDK ได้นำเสนอเทคโนโลยี OLED จอแสดงผลรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติคล้ายฟิล์ม คือมีความโปร่งใสจนสามารถมองเห็นทะลุได้ และจะเปล่งแสงเมื่อได้รับ พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถแสดงภาพในขณะที่จอถูกดัดให้โค้งงอได้อีกด้วย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีจอแสดงผลชนิดนี้ที่เหนือกว่าจอที่ทำจาก แก้วที่แตกร้าวได้ง่าย




TDK คาดว่าจะเริ่มผลิตฟิล์มแสดงผลภายในหนึ่งปี นั่นหมายความว่า เราอาจจะได้เห็นมือถือที่ใช้จอ OLED ชนิดนี้ก่อนสิ้นปี 2011 ก็ได้ โดยนอกจากจะผลิตจอแสดงผลดังกล่าว เพื่อใช้กับมือถือแล้ว TDK ยังมองว่า ฟิล์มแสดงผลชนิดนี้ยังเหมาะกับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สวมใส่ (wearable electronics) อย่างเช่น แว่นตาแสดงผล Augmented Reality ที่สามารถมองเห็นสิ่งที่ตรงหน้า และภาพกราฟิกที่ปรากฎบนฟิล์ม OLED ที่ใช้แทนกระจกแก้ว หรือด้วยความที่มันมีความยืดหยุ่นโค้งงอได้

ในบูธของ TDK ยังได้มีการนำเสนอสายรัดข้อมือที่มาพร้อมกับฟิล์มแสดงผลชนิดนี้ รวมถึงใน อนาคตสามารถพัฒนาเป็นวิวไฟน์เดอร์ของกล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่ใช้หน้าจอชนิดนถ่ายรูปสำหรับ Cameraphone ได้เลย จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ก็คือ ภาพที่สว่างสดใสจนสามารถมองเห็นภายใต้แสงสว่างในธรรมชาติ และพวกที่ชอบก้ม หน้าดูมือถือเวลาเดินก็จะไม่ตกท่อ เพราะจอใส :สำหรับต้นแบบที่นำมาโชว์จะมีขนาด 2 และ 3.5 นิ้ว แต่จะมีความละเอียดสูงถึง 200 พิกเซลต่อนิ้ว


ข้อมูลจาก : arip



10 วิธีการปรับแต่ง Firefox ให้ทำงานได้เร็วขึ้น


10 วิธีการปรับแต่ง Firefox ให้ทำงานได้เร็วขึ้นและดีขึ้น

--------------------------------------------------------------------------------

มีวิธีการปรับแต่ง Firefox จำนวน 10 วิธี เพื่อให้โปรแกรมทำงานได้เร็วขึ้นและดีขึ้นมาฝากครับ โดยก่อนอื่นให้ทำการเปิดโปรแกรม Firefox จากนั้นพิมพ์ about:config ในช่อง Address แล้วกด Enter

หมายเหตุ: หากท่านใดจะลองทำตามก็ให้ใช้ความระมัดระวังนะครับ เนื่องจากหากแก้ไขผิดผลาดอาจจะทำให้โปรแกรมมีปัญหาใน การทำงานได้

1. Speed up Firefox
วิธีการเพิ่มความเร็วให้กับ Firefox ทำได้โดยการปรับแต่งค่าคอนฟิกต่างๆ ดามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1: เสริช pipelining ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าต่างๆ ดังนี้
network.http.pipelining: ให้เปลี่ยนเป็น true
network.http.proxy.pipelining: ให้เปลี่ยนเป็น true
network.http.pipelining.maxrequests: ให้เปลี่ยนเป็น 8

ขั้นตอนที่ 2: เสริช max-connections ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าต่างๆ ดังนี้
network.http.max-connections: ให้เปลี่ยนเป็น 96
network.http.max-connections-per-server: ให้เปลี่ยนเป็น 32

2. Disable antivirus scanning
โดยดีฟอลท์ Firefox จะทำการสแกนไวรัสทุกๆ ครั้งเมื่อทำการดาวน์โหลดไฟล์ การปิดการสแกนไวรัสจะทำให้ Firefox ทำงานได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามคอนฟิกนี้ใช้ได้เฉพาะบนระบบวินโดวส์เท่า นั้น

การคอนฟิกให้ Firefox ไม่ต้องทำการสแกนไวรัสทำได้โดยการเสริช scanWhenDone ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
browser.download.manager.scanWhenDone: ให้เปลี่ยนเป็น false

3. Open Javascript popups as tabs
โดยดีฟอลท์ Firefox จะเปิดป็อปอัพในหน้าต่างใหม่ แต่สามารถคอนฟิกให้ Firefox เปิดป็อปอัพในแบบแท็บได้ โดยเสริช newwindow ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
browser.link.open_newwindow.restriction: ให้เปลี่ยนเป็น 0

4. Spell checking in all fields
โดยดีฟอลท์ Firefox จะตรวจสอบคำผิดเฉพาะในกล่องข้อความหลายบรรทัด แต่สามารถทำการคอนฟิกให้ Firefox ทำการตรวจสอบคำผิดในทุกๆ กล่องข้อความได้โดยเสริช spellcheckdefault ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
layout.spellcheckDefault: ให้เปลี่ยนเป็น 2

5. Open search bar results in new tab
โดยดีฟอลท์ Firefox จะแสดงผลที่ได้จากการเสริชโดย search bar ในหน้าแท็บปัจจุบัน แต่สามารถทำการคอนฟิกให้ Firefox แสดงผลที่ได้จากการเสริชด้วย search bar ในแท็บใหม่ได้ โดยเสริช openintab ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
browser.search.openintab: ให้เปลี่ยนเป็น true

6. Auto export bookmarks
ใน Firefox 3 และใหม่กว่านั้น bookmarks จะถูกบันทึกเป็น places.sqlite แทนที่จะเป็น bookmarks.html แต่สามารถทำการคอนฟิกให้ Firefox บันทึก bookmarks เป็นไฟล์ bookmarks.html ได้โดยเสริช autoExportHTML ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
browser.bookmarks.autoExportHTML: ให้เปลี่ยนเป็น true

7. Disable extension install delay
เมื่อทำการติดตั้ง extension ต่างๆ โดยดีฟอลท์ Firefox จะทำการนับถอยหลัง แต่สามารถทำการคอนฟิกเพื่อยกเลิกการนับถอยหลังได้โดย เสริช enable_delay ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
security.dialog_enable_delay: ให้เปลี่ยนเป็น 0

8. View source code in an external editor
เมื่อทำการเลือกคำสั่ง View source code ของหน้าเว็บ Firefox จะทำการเปิดหน้าป็อปอัพ แต่สามารถทำการคอนฟิกให้ Firefox ทำการเปิดหน้า View source code ด้วยโปรแกรมที่ต้องการได้ได้โดยเสริช view_source.editor ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
view_source.editor.external: ให้เปลี่ยนเป็น true
view_source.editor.path: ให้เปลี่ยนเป็นพาธของโปรแกรมที่ต้องการ

9. Get more add-on search results
เมื่อทำการเสริชในหน้า Add-on การแสดงผลจะจำกัดอยู่ที่ 5 แต่สามารถทำการคอนฟิกให้ Firefox ทำการแสดงผลลัพธ์มากกว่า 5 รายการ ได้โดยเสริช getAddons ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
extension.getAddons.maxResults: ให้เปลี่ยนเป็น 10 (หรือมากกว่า)

10. Redefine the Backspace button
โดยดีฟอลท์ปุ่ม Backspace จะใช้สำหรับการย้อนกลับไปยังหน้าก่อนหน้า แต่สามารถทำการคอนฟิกปุ่ม Backspace ทำการไปยังหน้าถัดไปได้ โดยเสริช backspace ในช่อง Filter จากนั้นให้ทำการแก้ไขค่าดังนี้
browser.backspace_action: ให้เปลี่ยนเป็น 0 สำหรับใช้ย้อนกลับไปยังหน้าก่อนหน้า หรือ 1 สำหรับการไปยังหน้าถัดไป


ที่มา : http://www.thaigaming.com/howto/101931.htm

ด่วน!!! พบช่องโหว่ร้ายแรงใน IE 6,7,8

 สำหรับช่องโหว่ใหม่ที่พบนี้รายงานโดย VUPEN Security บริษัทระบบรักษาความปลอดภัยในฝรั่งเศษ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยส่งผลกระทบกับบราวเซอร์ Internet Explorer เวอร์ชัน 6, 7 และ 8 ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows XP, Windows Vista และ Windows 7


VUPEN ได้จัดระดับความรุนแรงของช่องโหว่นี้เป็น "วิกฤต" (critical) เนื่องจากช่องโหว่ดังกล่าวจะสามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการจัดการหน่วยความจำของกลไกการวิเคราะห์คำสั่ง HTML โดยเฉพาะขั้นตอนในการนำเข้า CSS ของหน้าเว็บ ซึ่งผู้บุกรุกสามารถสร้างหน้าเว็บโดยอาศัยช่องโหว่ของการทำงานที่พบนี้ ส่งโค้ดอันตรายเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อด้วยการข้ามผ่าน (bypass) DEP และ ASLR ระบบรักษาความปลอดภัยที่มากับ Windows ได้ แต่ประเด็นที่น่ากลัวก็คือ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โค้ดอันตรายที่ใช้ช่องโหว่ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ในเครื่องมือแฮคที่ชื่อว่า Metasploit บนอินเทอร์เน็ตแล้ว (ตัวอย่างในคลิปวิดีโอข้างล่าง โชว์ให้เห็นการบายพาสระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสั่งรันโปรแกรมเครื่องคิดเลขจากหน้าเว็บที่ใช้ช่องโหว่ดังกล่าว)

*Update [25 DEC 2010 @8:25 a.m.] ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ออกมาแจ้งเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่นี้แล้ว แม้จะไม่ได้แจงรายละเอียดว่า เหตุใดช่องโหว่ดังกล่าวถึงเปิดโอกาสให้แฮคเกอร์บายพาสระบบรักษาความปลอดภัยได้ แต่แนะนำให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเครื่องมือของทางบริษัทชื่อว่า Enhanced Mitigation Experience Toolkit เพื่อบังคับให้ระบบโหลด DLLs (ไลบรารี่ของทุกโปรแกรม) เข้าไปในที่ปลอดภัย (ASLR:Address Space Layout Randomisation)  ซึ่งจะทำให้การโจมตีไม่สามารถทำได้สำเร็จ สำหรับวิดีโอสาธิตการใช้เครื่องมือนี้สามารถคลิกเข้าไปชมได้ในเว็บไซต์ Technet

ข้อมูลจาก: VUPEN





วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

@ มือถือ ผ่านดาวเทียม @

 เมื่อ: ตอนเช้า, 8.27 น.
มือถือผ่านดาวเทียม
 บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือไอเน็ต ร่วมกับ สิงคโปร์ เทเลคอม มูนิเคชั่นส์ ลิมิเต็ด หรือสิงเทล
นำเข้าไอ แซตโฟนโปร โทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสัญญาณ ดาวเทียมเครื่องแรกที่ใช้ระบบอิมมาแซต ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วโลก
เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางระหว่างประเทศตลอดเวลา

ซัมซุงสองซิม โทรศัพท์มือถือซัมซุง รุ่น พันช์ สองซิม สำหรับผู้ที่ชอบคุยและชอบ แชต รับสายได้ขณะ กำลังแชต
รองรับเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์และมายสเปซ จอทีเอฟ  ที คีย์บอร์ดคิวเวอร์ตี้ ราคาประมาณ 3,990 บาท


มาจาก.. เดลินิวส์

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

@ โน้ตบุ๊กจอ12.5นิ้ว รุ่นแรกของโลก @

ตลาดโน้ตบุ๊กจอเล็กกว่า 14 นิ้วมีช่องว่าง “เลอโนโว” ออก 2 รุ่นใหม่ จอ 12.5 นิ้วรุ่นแรกของโลก
มากับอินเทอร์คอร์ไอ 5 และ คอร์ไอ 3 ปีหน้าเล็งออกรุ่นใหม่ทุกไตรมาส ส่วนแท็บเลตต้องรอไตรมาส  2 ปีหน้า


นายขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน ธุรกิจขนาดกลางและย่อม บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาโน้ตบุ๊กที่ขายดีมากที่สุดในตลาด  คือ ขนาดจอ 14 นิ้ว แต่จากการศึกษาตลาด พบว่าโน้ตบุ๊กหน้าจอที่เล็กกว่าก็ยังมีช่องทางการทำตลาดอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา นักท่องเที่ยว รวมทั้งนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อย เพราะเน็ตบุ๊กยังมีประสิทธิภาพไม่ตรงความต้องการใช้งาน จึงได้เปิดตัวโน้ตบุ๊ก 2 รุ่น คือ ไอเดียแพด ยู 160 และ ยู 260 จุดเด่นที่บางเบา พกพาสะดวก
 
รุ่น ยู 260 เป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอขนาด 12.5 นิ้ว เป็นรุ่นแรกของโลก ใช้หน่วยประมวลผลของ อินเทล คอร์ไอ 5 ที่กินไฟน้อยเพียง 18 วัตต์ ทำให้แบตเตอรี่ใช้ได้นานถึง 5 ชม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง และบางเพียง 0.71 นิ้ว หน้าจอช่วยลดแสงสะท้อน แป้นพิมพ์ถูกออกแบบมาให้มีตัวระบายความร้อนรองรับการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ส่วนรุ่น ยู 160 ใช้หน่วยประมวลผล อินเทล คอร์ไอ 3 มีหน่วยความจำสูงถึง 500 กิกะไบต์  มีความหนา 1 นิ้ว น้ำหนัก 1.25 กิโลกรัม เชื่อมต่อไว-ไฟได้ ซึ่งทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการเดือน ม.ค. ปีหน้า
 
สำหรับภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10% ส่วนในปีหน้าจะเติบโตประมาณ 10% เช่นกัน เลอโนโวมีนโยบายออกสินค้าใหม่ ๆ ในทุกไตรมาส ส่วนแท็บเลตคาดว่าจะนำเข้าในไตรมาสที่สองของปี 2554.

มาจาก .. เดลินิวส์

@ Google เผยสุดยอดคำค้นแห่งปี ของไทย @



สุดยอดคำค้นแห่งปี

กูเกิล เผยคำค้นหายอดนิยมของไทยประจำปี 2553 หนึ่งปีแห่งการค้นหาประจำปีเสือ

ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นในเมืองไทยตลอดปี 2553 เช่น การชุมนุมทางการเมือง อุทกภัยที่ชาวไทยทั่วประเทศได้ร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประสบภัย และการจากไปอย่างวีรบุรุษของจ่าเพียร ล้วนเป็นข่าวเด่นที่อยู่ในความสนใจของคนไทยในปีนี้

จนถึงนักท่องเที่ยวมักจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวเก๋ๆ หรือกำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะสถานที่ที่มีเรื่องราวหรือมีความโดดเด่นจนได้ออกรายการทีวี หรือมีการพูดถึงบนอินเทอร์เน็ต เช่น  ศรีพันวา รีสอร์ทหรูที่เกาะภูเก็ต, ที่พักบนเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี และตลาดน้ำอัมพวา

ตลอดจนเทคโนโลจี3จี เข้ามาอยู่ในความสนใจของชาวไทยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเวลาที่จะมีการประมูลใบอนุญาตแต่ความสนใจดังกล่าวก็ลดระดับลงไป อย่างน่าเสียดายในตอนท้าย ทันทีที่การประมูลต้องถูกระงับไป

และ เพลงลูกทุ่งสะท้อนสังคมอย่าง “เพลงลูกเทวดา” มาแรงฉุดไม่อยู่ ส่วนรายการเรียลลิตี้ยอดฮิต “เดอะสตาร์ 6” ก็มีแฟนคลับติดตามให้กำลังใจอย่างเหนียวแน่นไม่หลุดโผ

วันนี้ กูเกิลประกาศ ผลไซต์ไกสต์ประจำปี 2553 ซึ่งเป็นการมองย้อนกลับไปทั้งปีผ่านสายตาสาธารณะของโลกออนไลน์ ผลไซท์ไกสท์นี้จะเปิดมุมมองที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้ย้อนนึกถึงเหตุการณ์สำคัญและเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในรอบปี โดยดูจากการค้นหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย

ประเทศที่ทำให้ใครต่อใครตื่นตาตื่นใจได้เสมอ สิ่งที่คนไทยค้นหาบ่งบอกเรื่องราวหลากหลายที่แสดงถึง "วิถีแบบไทยๆ" สถานการณ์ทางการเมืองดูเหมือนจะเป็นเรื่องเด่นของปีนี้ ที่ชาวไทยให้ความสนใจค้นหาข้อมูลกันอย่างล้นหลาม ตามมาด้วยเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่ คนไทยสามารถรวมตัวกันได้อย่างน่าทึ่ง และรวมน้ำใจแสดงพลังไปช่วยผู้เดือดร้อน

ขณะเดียวกันคนไทยกับความบันเทิงก็ยากที่จะแยกจากกัน เห็นได้จากเพลงลูกทุ่งสะท้อนสังคมที่มาแรง รวมถึงรายการเดอะสตาร์ที่มีคนจำนวนมากติดตามอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่เรื่องราวในครอบครัวของดาราที่อยู่ในความสนใจของคนไทยมาจนถึงสิ้น ปีไม่หลุดโผ

ทั้งยังมีอุปกรณ์เทคโนโลยีอินเทรนด์ต่างๆ เช่น iPad iPhone หรือ Blackberry และ Nokia ก็ได้รับความสนใจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทที่โดดเด่นมากในปีนี้ เช่น facebook และ YouTube

รายการคำค้นหาด้านล่างจะเปิดให้คุณได้สัมผัสกับไซต์ไกสต์ หรือ จิตวิญญาณแห่งกาลเวลาของประเทศไทยในปี 2553


คำค้นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งปี
1.เพลงลูกเทวดา
2.ipad
3.iphone 4
4.the star 6
5.เพลงเหงาปาก
6.facebook
7.ตารางบอล
8.ยูทูป
9.photoscape
10.รามคำแหง


บันเทิงเริงใจ
1.the star 6
2.พระจันทร์ลายพยัคฆ์
3.ซอน ต๊อก
4.วนิดา
5.มาลัยสามชาย
6.inception
7.ธาราหิมาลัย
8.กุหลาบไร้หนาม
9.ไทรโศก
10.เดี่ยว 8

รวมข่าวเด่น
1.สถานการณ์ เสื้อแดง
2.ข่าวน้ำท่วม
3.จ่าเพียร
4.ยุบพรรคประชาธิปัตย์
5.เสธแดง
6. อริสมันต์หนี
7.แอร์พอร์ตลิงค์
8.พงษ์พัฒน์
9.เซ็นทรัลเวิล์ดถล่ม
10.ปาเกียว


กีฬา
1.ฟุตบอลโลก 2010
2.เมืองทอง ยูไนเต็ด
3.ลิเวอร์พูล
4.ศรีสะเกษ fc
5.มวยปล้ำ
6.ขอนแก่น fc
7.ฟุตบอลยูฟ่า 
8.siamsport
9.ชลบุรี fc
10.torres


คนดังหน้าจอ
1.cn blue
2.zee
3.i love kamikaze
4.justin bieber
5.แอนนี่
6.ธัญญ่า
7.2pm always
8.4minute
9. มิน
10.กัน       


ธุรกิจชั้นนำ
1.toyota thailand
2.nissan thailand
3.major cineplex
4.air asia thailand
5.htc thailand
6.dtac
7.agoda thailand
8.kasikorn bank
9.super rich
10.apple thailand


เทรนไอทีมาแรงแห่งปี
1.facebook
2.iPhone 4g
3.Nokia 5233
4.Commart 2010
5.palringo
6.blackberry bold 9700
7.settrade.com
8.nexus one
9.qr code
10.photoscape 


พักผ่อนและท่องเที่ยว
1.ศรีพันวา
2.ที่พัก เกาะล้าน
3.ตลาดน้ำอัมพวา
4.ท้องฟ้าจำลอง
5.ศาลเจ้าพ่อเสือ
6.เกาะสมุย
7.ทัวร์เกาหลี
8.เพลินวาน
9.ทัวร์สิงคโปร์
10.ตลาดโรงเกลือ


คำค้นหาที่มาแรงทั่วโลก
1. chatroulette
2. ipad
3. justin bieber
4. nicky minaj
5. friv
6. myxer
7. katy perry
8. twitter
9. gamezer
10. facebook

*ทั้งหมดเป็นคำค้นที่มาแรงที่สุดของแต่ละหมวดซึ่งได้ตัดคำที่ซ้ำออกไปแล้ว


ที่มา.. กรุงเทพธุรกิจ

บิลล์เกตส์เชื่ออีก 5 ปี "คนจะเรียนผ่านเน็ต"

it1008




บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ แสดงวิสัยทัศน์ด้านการศึกษาไว้บนเวทีงาน Techonomy ซึ่งจัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนียเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบิลล์ เกตส์มองอนาคตของโลกการศึกษาว่า อินเทอร์เน็ตจะเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ของประชากรโลกในอีก 5 ปีนับจากนี้ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา 

"อีก 5 ปีนับจากนี้ คุณจะสามารถค้นหาเลกเชอร์หลายๆ บทที่ดีที่สุดในโลกได้อย่างอิสระจากเว็บไซต์" ซึ่งเกตส์เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะดีกว่าการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งเดียว


ความเชื่อนี้ของเกตส์เกิด ขึ้นเพราะปัจจัยเสริม 2 ด้าน หนึ่งคือด้านค่าใช้จ่ายของการเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยในสหรัฐฯนั้น ค่าใช้จ่ายของการเรียนมหาวิทยาลัยโดยเฉลี่ยนั้นสูงถึง 200,000 เหรียญต่อ 4 ปี (ราว 6.3 ล้านบาท) ปัจจัยที่ 2 คือข้อจำกัดของตำราเรียน ซึ่งโลกอินเทอร์เน็ตจะมีผลให้นักศึกษาในเอเชียสามารถเข้าถึงตำราเรียนได้ ทั่วถึงยิ่งขึ้น


เกตส์มองว่าการศึกษาผ่านเว็บไซต์ในอนาคตจะมีการให้เครดิตหรือใบ ประกาศที่สามารถนำไปอ้างอิงเพื่อการประกอบอาชีพได้ เชื่อว่าอัตราค่าเล่าเรียนที่นักศึกษาอเมริกันต้องชำระจะลดลงจาก 50,000 เหรียญต่อปี (ราว 1.5 ล้านบาท) ลงมาอยู่ที่ 2,000 เหรียญต่อปี (ราว 63,000 บาท)

วิสัยทัศน์ของเกตส์นั้นถูกมองว่าสมเหตุสมผล เนื่อง จากการเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตไม่เพียงจะสามารถแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายสูงซึ่งเป็น ปัญหาในหลายครอบครัวแล้ว ยังสามารถรองรับการเรียนแบบไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะในแง่จำนวนนักเรียนที่มากขึ้น ที่สำคัญ ขณะนี้สถาบันการศึกษาจำนวนมากต่างมีสื่อการสอนออนไลน์ที่เปิดกว้างให้นิสิต สามารถเข้าถึงได้จากออนไลน์อยู่แล้ว หากนักศึกษาอิสระจะใช้ประโยชน์จากสื่อการสอนเหล่านี้บ้าง ก็ย่อมเป็นไปได้โดยง่าย

สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แปลว่ามหาวิทยาลัยและโรงเรียนจะลดความสำคัญในสังคมลง แต่ส ถาบันการศึกษาจะมีผลต่อสังคมในวงกว้างขึ้นเนื่องจากสามารถเปิดกว้างให้ผู้ ใฝ่เรียนทั่วไปเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้มากขึ้นด้วยเงินไม่มาก ขณะเดียวกันนักเรียนก็สามารถทำงานและสนับสนุนตัวเองได้ง่ายขึ้นขณะเรียน โดยขณะนี้ รูปแบบการเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตแนวคิดเดียวกับเกตส์นั้นเกิดขึ้นแล้วในชื่อ The Open University เปิดให้บริการในบางกลุ่มประเทศ และเปิดกว้างให้ผู้ใฝ่รู้สามารถเรียนรู้ที่บ้านและรับใบประกาศได้ในราคา ประหยัด


** ยืนยันควรแจกแล็ปท็อปเด็ก **


งานนี้ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิหนึ่งแล็ปท็อปเพื่อเด็ก 1 คนหรือ One Laptop Per Child อย่างนิ โคลัส เนโกรพอนเต (Nicholas Negroponte) ออกมาให้ความเห็นบนเวทีกรณีแรงต่อต้านเรื่องการแจกคอมพิวเตอร์พกพาราคา ประหยัดแก่เยาวชนในประเทศกำลังพัฒนา ว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์หากมูลนิธิจะดำเนินการแจกคอมพิวเตอร์เพื่อ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างเดียวโดยไม่พัฒนาการศึกษาด้านอื่นควบคู่ไปด้วย จุดนี้เนโกรพอนเตระบุว่าไม่จริง เนื่องจากพบว่านอกจากเด็กๆ จะสามารถใช้งานแล็ปท็อปได้เองแล้ว ยังสามารถสอนให้ผู้ปกครองอ่านและเขียนภาษาบนแล็บท็อปได้ด้วย

"เยาวชนในพื้นที่ห่างไกลไม่เพียงสอนตัวเองให้อ่านและเขียนได้ เราพบว่าในเปรู เด็กๆ สามารถสอนผู้ปกครองให้อ่านหรือเขียนบนแล็ผท็อปของตัวเองด้วย" 

เนโกรพอนเตยกตัวอย่างเยาวชนในอัฟกานิสถาน ว่าเยาวชนมากกว่าครึ่งหนึ่งไม่ได้ไปโรงเรียนกว่า 75% เป็นเด็กหญิง อย่างไรก็ตาม การสำรวจยังพบว่าคุณครูชาวอัฟกันราว 1 ใน 4 เป็นผู้ไม่รู้หนังสือ โดยอีกส่วนเป็นคุณครูที่จบการศึกษาในระดับที่เหนือกว่านักเรียนเพียง 1 ระดับเท่านั้น

จุดนี้เองที่เนโกรพอนเตมองว่าเยาวชนจะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาในประเทศได้ โดยขณะนี้ คอมพิวเตอร์พกพาในโครงการ OLPC ราว 2 ล้านเครื่องถูกจัดส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนาเรียบร้อยแล้ว


เนโกรพอนเตย้ำว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ เจียดเงินงบประมาณเพียง 1% จากงบจัดหายุทโธปกรณ์ 2,000 ล้านเหรียญต่อสัปดาห์ เยาวชนอัฟกันก็จะมีคอมพิวเตอร์พกพาใช้งานกันทุกคน

ที่มา : 
ASTVผู้จัดการออนไลน์10 สิงหาคม 2553 08:34 น.

ครม.เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการใช้ 13 ฟอนต์ไทยในงานราชการ

ครม.เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการโละฟอนต์ต่างชาติ บังคับใช้ 13 ฟอนต์ไทยในงานราชการ ระบุป้องกันละเมิดลิขสิทธิ์
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยดำเนินการติดตั้งฟอนต์สารบรรณและฟอนต์ อื่น ๆ ทั้งหมด จำนวน 13 ฟอนต์ ของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (สอซช.) หรือ SIPA และกรมทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มเข้าไปในระบบปฏิบัติการ Thai OS (Thai Operating System) และใช้ฟอนต์ดังกล่าวแทนฟอนต์เดิม ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ โดยให้ติดตั้งและใช้งานให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2553

ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ปัจจุบันส่วนราชการจำนวนมากมีการใช้ฟอนต์ที่หลากหลาย ไม่มีมาตรฐานในเอกสารทางราชการ อีกทั้งยังมีหน่วยงานราชการหลายแห่งใช้มาตรฐานฟอนต์ของบริษัทเอกชนที่ผูกขาด ลิขสิทธิ์ เช่น Angsana อาจมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ได้

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงได้มีการพัฒนาและมีการประกวดแข่งขันฟอนต์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้ Open Source Software ที่เป็นซอฟต์แวร์เสรีให้ส่วนราชการไทยประกาศมาตรฐานเอกสารดิจิตัลและรูปแบบ ของฟอนต์ที่ไม่ขึ้นกับระบบปฏิบัติการและลิขสิทธิ์ของบริษัทใด ๆ เพื่อความภาคภูมิใจในความเป็นชาติและเอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย ซึ่งในขณะนี้มีฟอนต์ที่ส่วนราชการไทยสามารถเป็นเจ้าของและพร้อมแจกจ่ายให้ กับผู้ประสงค์จะใช้งานรวม 13 ฟอนต์ ดาว์นโหล ตัวอย่าง รายละเอียด ขั้นตอนการติดตั้ง ได้ที่นี่ http://www.royalthaipolice.go.th/font.htm
ที่มา : 
เขียนโดย มนตรี ดวงจิโน   
วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2010 เวลา 17:05 น.

http://eduit.pn.psu.ac.th/component/content/article/16-2009-10-14-09-04-34/305--13-.html